ทุนวิจัยสร้างองค์ความรู้ (ทุนวิจัย 15,000 บาท)
SDGs
SDGs คืออะไร…
SDGs ย่อมาจากคำว่า “Sustainable Development Goal” หรือ “การพัฒนาอย่างยั่งยืน” คือเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืนของสหประชาชาติ (United Nations: UN) เพื่อทำให้โลกดีขึ้นภายในปี 2030 ด้วยการพัฒนาที่คำนึงถึงความเป็นองค์รวมของทุกๆ ด้านอย่างสมดุลบนพื้นฐานของทรัพยากรธรรมชาติ ภูมิปัญญาและวัฒนธรรมด้วยการมีส่วนร่วมของประชาชนทุกกลุ่ม ด้วยความเอื้ออาทร เคารพซึ่งกันและกัน เพื่อความสามารถในการพึ่งตนเอง และคุณภาพชีวิตที่อย่างเท่าเทียม ซึ่งหน่วยงานต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นสถานศึกษา หน่วยงานราชการ หรือบริษัทเอกชนต่างก็นำแนวทางการพัฒนาอย่างยั่งยืน มาปรับใช้และวางแผนการดำเนินงาน เพื่อให้สอดคล้องกับเป้าหมายที่อยู่ในระดับสากลและนานาชาติ สืบเนื่องจากเป้าหมายการพัฒนาแห่งสหัสวรรษ (Millennium Development Goals – MDGs) ซึ่งเป็นการเสริมสร้างมาตรฐานชีวิตความเป็นอยู่ของประชาชนได้สิ้นสุดลงเมื่อปี 2015 องค์การสหประชาชาติ จึงจัดทำเป้าหมายเพื่อการพัฒนาที่ยั่งยืน (Sustainable Development Goals –SDGs) ทั้งหมด 17 เป้าหมาย ที่มุ่งหวังจะช่วยแก้ปัญหาที่โลกกำลังเผชิญอยู่ เช่น ความยากจน ความไม่เท่าเทียม สภาวะโลกร้อน และสันติสุข เพื่อเสริมแนวคิด “ไม่เป็นการทิ้งใครไว้ข้างหลัง” โดย 17 เป้าหมาย มีดังนี้
- เป้าหมายที่ 1: ขจัดความยากจนทุกรูปแบบในทุกพื้นที่
- เป้าหมายที่ 2: ยุติความหิวโหย บรรลุความมั่นคงทางอาหารและยกระดับโภชนาการและส่งเสริมเกษตรกรรมที่ยั่งยืน
- เป้าหมายที่ 3: สร้างหลักประกันว่าคนมีชีวิตที่มีสุขภาพดีและส่งเสริมความเป็นอยู่ที่ดีสำหรับทุกคนในทุกวัย
- เป้าหมายที่ 4: สร้างหลักประกันว่าทุกคนมีการศึกษาที่มีคุณภาพอย่างครอบคลุมและเท่าเทียม
และสนับสนุนโอกาสในการเรียนรู้ตลอดชีวิต - เป้าหมายที่ 5: บรรลุความเท่าเทียมระหว่างเพศ และเสริมอำนาจให้แก่สตรีและเด็กหญิง
- เป้าหมายที่ 6: สร้างหลักประกันว่าจะมีการจัดให้มีน้ำและสุขอนามัยสำหรับทุกคนและมีการบริหารจัดการที่ยั่งยืน
- เป้าหมายที่ 7: สร้างหลักประกันให้ทุกคนสามารถเข้าถึงพลังงานสมัยใหม่ที่ยั่งยืนในราคาที่ย่อมเยา
- เป้าหมายที่ 8: ส่งเสริมการเติบโตทางเศรษฐกิจที่ต่อเนื่อง ครอบคลุม และยั่งยืน การจ้างงานเต็มที่ มีผลิตภาพ
และการมีงานที่เหมาะสมสำหรับทุกคน - เป้าหมายที่ 9: สร้างโครงสร้างพื้นฐานที่มีความทนทาน ส่งเสริมการพัฒนาอุตสาหกรรมที่ครอบคลุมและยั่งยืน
และส่งเสริมนวัตกรรม - เป้าหมายที่ 10: ลดความไม่เสมอภาคภายในประเทศและระหว่างประเทศ
- เป้าหมายที่ 11: ทำให้เมืองและการตั้งถิ่นฐานของมนุษย์มีความครอบคลุม ปลอดภัย มีภูมิต้านทานและยั่งยืน
- เป้าหมายที่ 12: สร้างหลักประกันให้มีรูปแบบการผลิตและการบริโภคที่ยั่งยืน
- เป้าหมายที่ 13: ปฏิบัติการอย่างเร่งด่วนเพื่อต่อสู้การเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศและผลกระทบที่เกิดขึ้น
- เป้าหมายที่ 14: อนุรักษ์และใช้ประโยชน์จากมหาสมุทร ทะเล และทรัพยากรทางทะเลอย่างยั่งยืนเพื่อการพัฒนาที่ยั่งยืน
- เป้าหมายที่ 15: ปกป้อง ฟื้นฟู และสนับสนุนการใช้ระบบนิเวศบนบกอย่างยั่งยืน จัดการป่าไม้อย่างยั่งยืนต่อสู้การกลายสภาพเป็นทะเลทราย หยุดการเสื่อมโทรมของที่ดินและฟื้นสภาพดิน และหยุดยั้งการสูญเสียความหลากหลายทางชีวภาพ
- เป้าหมายที่ 16: ส่งเสริมสังคมที่สงบสุขและครอบคลุมเพื่อการพัฒนาที่ยั่งยืน ให้ทุกคนเข้าถึงความยุติธรรม
และสร้างสถาบันที่มีประสิทธิภาพ รับผิดชอบ และครอบคลุมในทุกระดับ - เป้าหมายที่ 17: เสริมความเข้มแข็งให้แก่กลไกการดำเนินงานและฟื้นฟูหุ้นส่วนความร่วมมือระดับโลกเพื่อการพัฒนาที่ยั่งยืน
ทั้งหมดนี้คือเป้าหมาย SDGs 17 เป้าหมาย ที่สหประชาชาติ ที่ทั่วโลกจะทำให้ได้ภายในปี 2030 ซึ่งหลายประเทศก็ได้ออก
วิสัยทัศน์เชิงนโยบายหลายแบบ ทั้งญี่ปุ่นกับ Society 5.0 , ประเทศไทย 4.0 และ Smart Nation ของสิงคโปร์ เป็นต้น
ที่มา: https://www.sdgmove.com/intro-to-sdgs/
แนวปฏิบัติในการขอรับทุนวิจัยสร้างองค์ความรู้เพื่อพัฒนาประเทศ 15,000 บาท/ อาจารย์ประจำ 1 คน ของสาขาวิชา/หน่วยงาน
ประจำปี 2566
แนวทางการขอรับทุน
มหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราชได้จัดสรรงบประมาณจากกองทุนการวิจัย-เงินรายได้ สำหรับเป็นเงินอุดหนุนการวิจัยสร้างองค์ความรู้เพื่อพัฒนาประเทศ 15,000 บาท/อาจารย์ประจำ 1 คน ของสาขาวิชา สำนักเทคโนโลยีการศึกษา และสำนักทะเบียนและวัดผล เพื่อให้คณาจารย์ของมหาวิทยาลัยสามารถดำเนินการวิจัยได้ตามจำนวนอาจารย์ที่มีในสาขาวิชา/สำนัก หรือดำเนินการบูรณาการข้ามหน่วยงานได้ภายใต้กรอบวงเงินที่กำหนด โดยให้การดำเนินการต้องเป็นไปตามระเบียบมหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราชว่าด้วย ค่าใช้จ่ายในการดำเนินการวิจัยสร้างองค์ความรู้
พ.ศ. 2565 และประกาศมหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราช เรื่อง หลักเกณฑ์ วิธีการขอรับทุนอุดหนุนการวิจัย
และการดำเนินการวิจัยสร้างองค์ความรู้ พ.ศ. 2566
- ประเภททุนวิจัย
ทุนวิจัยมี 2 ประเภท คือ
1.1 รายงานเพื่อขอตำแหน่งทางวิชาการ เป็นงานวิจัยที่จัดทำเป็นเล่มรายงานการวิจัย และผ่านการพิจารณาคุณภาพโดยคณะกรรมการเฉพาะกิจ
รวมถึงจัดทำบทความวิจัยเพื่อตีพิมพ์ในวารสารทางวิชาการ ตามหลักเกณฑ์การพิจารณาวารสารทางวิชาการ
สำหรับการเผยแพร่ผลงานทางวิชาการ ที่กำหนดไว้ในประกาศ ก.พ.อ.
1.2 บทความวิจัยเพื่อตีพิมพ์ เป็นงานวิจัยที่ที่จัดทำเป็นบทความวิจัยที่ประมวลสรุปกระบวนการและผลลัพธ์การวิจัยเพื่อตีพิมพ์
ในวารสารทางวิชาการ ตามหลักเกณฑ์การพิจารณาวารสารทางวิชาการ
สำหรับการเผยแพร่ผลงานทางวิชาการ ที่กำหนดไว้ในประกาศ ก.พ.อ.
- คุณสมบัติของผู้ขอรับทุน
2.1 หัวหน้าโครงการวิจัย
1) เป็นคณาจารย์ประจำที่เป็นข้าราชการ หรือพนักงานมหาวิทยาลัยในอัตราที่ครองจริง ณ วันที่ได้รับ
จัดสรรงบประมาณตามแผนปฏิบัติราชการประจำปี
2) เป็นผู้รับผิดชอบหลักในการดำเนินการวิจัย โดยมีชื่อเป็นลำดับแรกของโครงการวิจัย มีสัดส่วนการทำวิจัยมากที่สุด
3) มีอายุราชการหรือระยะเวลาการจ้างงานตามสัญญาจ้าง ไม่น้อยกว่า ๑๕ เดือน นับแต่วันทำสัญญารับทุนอุดหนุนการวิจัย
4) ไม่อยู่ระหว่างลาศึกษาต่อทุกประเภท หรือไปปฏิบัติงานเพื่อเพิ่มพูนความรู้ทางวิชาการ หรือไปทำวิจัยในต่างประเทศ
5) ไม่เป็นอาจารย์ประจำตามสัญญาจ้าง
6) ไม่เป็นผู้ยุติโครงการวิจัยตามเงื่อนไขที่มหาวิทยาลัยกำหนด
7) ไม่มีโครงการวิจัยที่ยังดำเนินการไม่แล้วเสร็จในปีงบประมาณก่อนหน้า ยกเว้น กรณีผู้ขอรับทุนดำเนินการวิจัยแล้วเสร็จ
ภายในระยะเวลาการเปิดรับข้อเสนอโครงการวิจัยในปีงบประมาณนั้น
คุณสมบัติอื่นนอกเหนือจากที่กำหนดไว้ ให้คณะกรรมการกลั่นกรองงานวิจัยประจำหน่วยงานเป็นผู้พิจารณาอนุมัติ
2.2 ผู้ร่วมโครงการวิจัย
1) เป็นคณาจารย์ประจำที่เป็นข้าราชการ หรือพนักงานมหาวิทยาลัยในอัตราที่ครองจริง ณ วันที่ได้รับ
จัดสรรงบประมาณตามแผนปฏิบัติราชการประจำปี
2) มีสัดส่วนการทำวิจัยในข้อเสนอโครงการวิจัย
3) ไม่อยู่ระหว่างลาศึกษาต่อทุกประเภท หรือไปปฏิบัติงานเพื่อเพิ่มพูนความรู้ทางวิชาการ หรือไปทำวิจัยในต่างประเทศ
4) ไม่เป็นอาจารย์ประจำตามสัญญาจ้าง
คุณสมบัติอื่นนอกเหนือจากที่กำหนดไว้ ให้คณะกรรมการกลั่นกรองงานวิจัยประจำหน่วยงานเป็นผู้พิจารณาอนุมัติ
การเสนอโครงการวิจัย
1. การยื่นข้อเสนอโครงการวิจัย
1.1 ผู้ขอรับทุนสามารถยื่นขอรับทุนอุดหนุนการวิจัยในฐานะหัวหน้าโครงการวิจัย หรือผู้ร่วมโครงการวิจัยได้เพียงหนึ่งโครงการวิจัยเท่านั้น
และไม่สามารถเป็นหัวหน้าโครงการวิจัยหรือผู้ร่วมโครงการวิจัยในโครงการวิจัยอื่นได้อีก
1.2 การขอรับทุนอุดหนุนการวิจัย ผู้ขอรับทุนสามารถรวมกลุ่มผู้ขอรับทุนในการทำวิจัยได้ตามความเหมาะสม
ซึ่งอัตราค่าใช้จ่ายในการดำเนินการวิจัยให้เป็นไปตามอัตราที่กำหนดคูณด้วยจำนวนหัวหน้าโครงการวิจัยและผู้ร่วมโครงการวิจัย
ทั้งนี้ กรณีผู้ร่วมโครงการวิจัยสังกัดหน่วยงานเดียวกันกับหัวหน้าโครงการวิจัย ให้ผู้ร่วมโครงการวิจัยแจ้งให้หน่วยงานโอนงบประมาณ
ในส่วนของผู้ร่วมโครงการวิจัยให้หัวหน้าโครงการวิจัย และกรณีผู้ร่วมโครงการวิจัยไม่ได้สังกัดหน่วยงานเดียวกันกับหัวหน้าโครงการวิจัย
ให้ผู้ร่วมโครงการวิจัยแจ้งให้หน่วยงานโอนงบประมาณในส่วนของผู้ร่วมโครงการวิจัยให้หน่วยงานที่หัวหน้าโครงการวิจัยสังกัด
โดยแจ้งการโอนข้ามหน่วยงานผ่านกองแผนงาน เพื่อเสนออธิการบดีอนุมัติ
1.3 ข้อเสนอโครงการวิจัยต้องมีลักษณะเป็นการวิจัยเพื่อการสร้าง การทดสอบ หรือการพัฒนาองค์ความรู้ในศาสตร์นั้นๆ
ไม่เป็นงานวิจัยที่เกี่ยวข้องกับการบริหารงานของหน่วยงานหรือหลักสูตร เช่น การสำรวจความพึงพอใจของนักศึกษา ผู้เรียน
หรือผู้ปฏิบัติงาน และการประเมินหลักสูตร เป็นต้น
1.4 ข้อเสนอโครงการวิจัยที่เสนอขอรับทุน ต้องไม่มีความซ้ำซ้อนกับโครงการที่เสนอขอรับทุนกับแหล่งทุนอื่นๆ
ทั้งภายในและภายนอกมหาวิทยาลัย หรือเป็นโครงการที่ดำเนินการเสร็จสิ้นแล้ว หรือเป็นโครงการวิจัยของนักศึกษาและบุคลากร
ในหน่วยงาน หรือเป็นโครงการที่ใช้สำเร็จการศึกษา
1.5 ผู้ขอรับทุนจัดทำข้อเสนอโครงการวิจัยตามแบบฟอร์มที่กำหนด สำหรับระยะเวลาการเปิดรับข้อเสนอโครงการวิจัย
ให้เป็นไปตามที่หน่วยงาน (สาขา/สำนัก) กำหนด โดยรายละเอียด ดังนี้
1) ทุนวิจัยประเภท รายงานเพื่อขอตำแหน่งทางวิชาการ
ให้ผู้ขอรับทุนจัดทำข้อเสนอโครงการวิจัยตามแบบเสนอโครงการวิจัยเพื่อขอรับทุนวิจัยสร้างองค์ความรู้เพื่อพัฒนาประเทศ 15,000 บาท/ อาจารย์ประจำ 1 คน ของสาขาวิชา/หน่วยงาน ประเภท รายงานเพื่อขอตำแหน่งทางวิชาการ (สวพ.ส 002/2) จำนวนชุดให้เป็นไปตามที่ สาขาวิชา/สำนัก กำหนด พร้อมทั้งบันทึกนำส่งตามแบบ สวพ.ส 001
2) ทุนวิจัยประเภท บทความวิจัยเพื่อตีพิมพ์
ให้ผู้ขอรับทุนจัดทำข้อเสนอโครงการวิจัยตามแบบเสนอโครงการวิจัยเพื่อขอรับทุนวิจัยสร้างองค์ความรู้เพื่อพัฒนาประเทศ 15,000 บาท
/อาจารย์ประจำ 1 คน ของสาขาวิชา/หน่วยงาน ประเภท บทความวิจัยเพื่อตีพิมพ์ (สวพ.ส 002/1) จำนวนชุดให้เป็นไปตามที่สาขาวิชา/ สำนัก กำหนด พร้อมทั้งบันทึกนำส่ง ตามแบบ สวพ.ส 001
- การพิจารณาข้อเสนอโครงการวิจัย
ให้หน่วยงาน (สาขาวิชา/สำนัก) ดำเนินการดังนี้
2.1 แต่งตั้งคณะกรรมการกลั่นกรองงานวิจัยประจำหน่วยงาน โดย
1) สาขาวิชา ให้คณะกรรมการประจำสาขาวิชาเป็นคณะกรรมการกลั่นกรองงานวิจัยประจำสาขาวิชา หรือคณะกรรมการประจำสาขาวิชาอาจแต่งตั้งคณะกรรมการกลั่นกรองงานวิจัยประจำสาขาวิชา ประกอบด้วย ประธานกรรมการ และกรรมการที่แต่งตั้งจากบุคคลภายในสาขาวิชานั้น รวมแล้วไม่น้อยกว่าห้าคน แต่ไม่เกินเก้าคน และให้บุคคลภายในสาขาวิชาจำนวนหนึ่งคน เป็นกรรมการและเลขานุการ ทั้งนี้ อาจให้มีผู้ช่วยเลขานุการก็ได้
2) สำนัก (สำนักเทคโนโลยีการศึกษา และสำนักทะเบียนและวัดผล) ให้ผู้อำนวยการสำนักแต่งตั้งคณะะกรรมการกลั่นกรองงานวิจัยประจำสำนัก (คณะกรรมการกลั่นกรองงานวิจัยประจำสำนักเทคโนโลยีการศึกษา หรือ คณะกรรมการกลั่นกรองงานวิจัยประจำสำนักทะเบียนและวัดผล) ประกอบด้วย ประธานกรรมการ และกรรมการ ที่แต่งตั้งจากบุคคลภายในสำนักรวมแล้วไม่น้อยกว่าห้าคน แต่ไม่เกินเก้าคน และให้บุคคลภายในสำนักจำนวนหนึ่งคนเป็นเลขานุการ ทั้งนี้ อาจให้มีผู้ช่วยเลขานุการก็ได้
2.2 ส่งข้อเสนอโครงการวิจัยให้ คณะกรรมการกลั่นกรองพิจารณา
2.3 การพิจารณาข้อเสนอโครงการวิจัย
1) ทุนวิจัยประเภท รายงานเพื่อขอตำแหน่งทางวิชาการ
ให้คณะกรรมการกลั่นกรองงานวิจัยประจำหน่วยงาน พิจารณา ดังนี้
- พิจารณากลั่นกรองคุณสมบัติของผู้ขอรับทุน ลักษณะของข้อเสนอโครงการวิจัยตามเงื่อนไขที่กำหนด ความซ้ำซ้อนของโครงการที่เสนอขอรับทุนกับแหล่งทุนอื่นๆ ทั้งภายในและภายนอกมหาวิทยาลัย โครงการที่ดำเนินการเสร็จสิ้นแล้ว โครงการวิจัยของนักศึกษาและบุคลากรในหน่วยงาน และโครงการที่ใช้สำเร็จการศึกษา
- เสนอรายชื่อคณะกรรมการเฉพาะกิจให้รองอธิการบดีที่กำกับดูแลสาขาวิชา สำนักเทคโนโลยีการศึกษา หรือสำนักทะเบียนและวัดผล แล้วแต่กรณี แต่งตั้งคณะกรรมการเฉพาะกิจเพื่อทำหน้าที่พิจารณาข้อเสนอโครงการวิจัย และรายงานการวิจัย
ให้หน่วยงาน (สาขาวิชา/สำนัก) ดำเนินการดังนี้
- ทาบทาม จัดทำ คำสั่งแต่งตั้งคณะกรรมการเฉพาะกิจ และ บันทึกเสนอรองอธิการบดีฯ ลงนามในคำสั่ง
- ประสานงานการพิจารณาข้อเสนอโครงการวิจัย
- แจ้งผลการพิจารณาข้อเสนอโครงการวิจัย และคะแนนการประเมินคุณภาพข้อเสนอโครงการวิจัย (ตัวอย่างแบบประเมินข้อเสนอโครงการวิจัย สวพ.ส 03-1) ให้คณะกรรมการกลั่นกรอง และคณะกรรมการวิจัยทราบ
- ส่งคำสั่งแต่งตั้งคณะกรรมการเฉพาะกิจและหนังสือรับรองผลการพิจารณาข้อเสนอโครงการวิจัย พร้อมทั้ง บันทึกขอเบิกจ่ายค่าตอบแทนคณะกรรมการเฉพาะกิจตามแบบ สวพ.ส 007 พร้อมทั้งแนบ หลักฐานการเบิกจ่ายเงินค่าตอบแทนคณะกรรมการเฉพาะกิจพิจารณาข้อเสนอโครงการวิจัย ให้สถาบันวิจัยและพัฒนาเพื่อประกอบการเบิกจ่ายเงินค่าตอบแทน
2) ทุนวิจัยประเภท บทความวิจัยเพื่อตีพิมพ์
ให้คณะกรรมการกลั่นกรองงานวิจัยประจำหน่วยงาน พิจารณา ดังนี้
- พิจารณากลั่นกรองคุณสมบัติของผู้ขอรับทุน ลักษณะของข้อเสนอโครงการวิจัยตามเงื่อนไขที่กำหนด ความซ้ำซ้อนของโครงการที่เสนอขอรับทุนกับแหล่งทุนอื่นๆ ทั้งภายในและภายนอกมหาวิทยาลัย โครงการที่ดำเนินการเสร็จสิ้นแล้ว โครงการวิจัยของนักศึกษาและบุคลากรในหน่วยงาน และโครงการที่ใช้สำเร็จการศึกษา
- พิจารณาคุณภาพของข้อเสนอโครงการวิจัย ความคุ้มค่า ประโยชน์ต่อมหาวิทยาลัย และความเป็นไปได้ในการตีพิมพ์
- พิจารณาให้ความเห็นชอบการปรับแก้ไขโครงการวิจัย และอนุมัติทุนอุดหนุนการวิจัย
- การทำสัญญาการเบิกจ่ายเงินอุดหนุนการวิจัย
3.1 ทุนวิจัยประเภท รายงานเพื่อขอตำแหน่งทางวิชาการ
เมื่อคณะกรรมการเฉพาะกิจอนุมัติทุนอุดหนุนการวิจัยแล้ว
ให้หน่วยงาน (สาขาวิชา/สำนัก) ดำเนินการ ดังนี้
3.1.1 แจ้งผลการพิจารณาอนุมัติทุนอุดหนุนการวิจัย พร้อมทั้งจัดทำสัญญารับเงินอุดหนุนการวิจัย “สัญญารับทุนอุดหนุนการวิจัย มหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราช ประเภท รายงานเพื่อขอตำแหน่งทางวิชาการ” ตามแบบ สวพ.ส 008_2(1) กรณีโครงการวิจัยที่ไม่มีผู้ร่วมโครงการ
หรือแบบ สวพ.ส 008_2(2) กรณีโครงการวิจัยมีผู้ร่วมโครงการ พร้อมทั้งหนังสือมอบอำนาจ สวพ.ส 009_2 โดยผู้ขอรับทุนต้องทำสัญญากับมหาวิทยาลัยภายใน 15 วันทำการ นับแต่วันที่ได้รับแจ้งการอนุมัติให้ทุนอุดหนุนการวิจัยเป็นลายลักษณ์อักษรจากหน่วยงาน มิฉะนั้นให้ถือว่าผู้ขอรับทุนประสงค์จะยกเลิกการขอรับทุนอุดหนุนการวิจัย และให้ยุติโครงการวิจัย
กรณีโครงการวิจัยที่ยื่นขอการรับรองจริยธรรมการวิจัย ให้ดำเนินการให้เสร็จสิ้นก่อนทำสัญญารับทุนอุดหนุนการวิจัยกับมหาวิทยาลัย โดยผู้ขอรับทุนต้องทำสัญญากับมหาวิทยาลัยภายใน 15 วันทำการนับแต่วันที่ได้รับแจ้งผลการรับรองจริยธรรมการวิจัยเป็นลายลักษณ์อักษร มิฉะนั้น ให้ถือว่าผู้ขอรับทุนประสงค์จะยกเลิกการขอรับทุนอุดหนุนการวิจัย และให้ยุติโครงการวิจัย ถ้าผู้ขอรับทุนไม่สามารถทำสัญญาได้ตามเวลาที่กำหนด หรือกรณีผู้ขอรับทุนประสงค์จะทำสัญญารับทุนอุดหนุนการวิจัยกับมหาวิทยาลัยก่อนดำเนินการขอรับรองจริยธรรมการวิจัย ให้ผู้ขอรับทุนเสนอ
คณะกรรมการกลั่นกรองงานวิจัยประจำหน่วยงานพิจารณาก่อนครบกำหนดระยะเวลาดังกล่าว
3.1.2 จัดทำประกาศรายชื่อผู้ได้รับทุนและสัญญารับทุนอุดหนุนการวิจัย เสนอให้รองอธิการบดี
ที่กำกับดูแลสาขาวิชา/สำนัก (สำนักเทคโนโลยีการศึกษา และสำนักทะเบียนและวัดผล) ลงนาม
3.1.3 ส่งคำสั่งแต่งตั้งคณะกรรมการเฉพาะกิจและหนังสือรับรองผลการพิจารณาข้อเสนอโครงการวิจัย ให้สถาบันวิจัยและพัฒนาเบิกจ่ายค่าตอบแทนคณะกรรมการเฉพาะกิจพิจารณาข้อเสนอโครงการวิจัย พร้อมทั้งส่งข้อมูลโครงการวิจัย เพื่อรายงานให้คณะกรรมการวิจัยรับทราบ
3.2 ทุนวิจัยประเภท บทความวิจัยเพื่อตีพิมพ์
เมื่อคณะกรรมการกลั่นกรองงานวิจัยประจำหน่วยงานได้อนุมัติให้ทุนอุดหนุนการวิจัยแล้วให้หน่วยงาน (สาขาวิชา/สำนัก) ดำเนินการดังนี้
3.2.1 แจ้งผลการพิจารณาอนุมัติทุนอุดหนุนการวิจัย พร้อมทั้งจัดทำสัญญารับเงินอุดหนุนการวิจัย “สัญญารับทุนอุดหนุนการวิจัย มหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราช ประเภท บทความวิจัยเพื่อตีพิมพ์” ตามแบบ สวพ.ส 008_1(1) กรณีโครงการวิจัยที่ไม่มีผู้ร่วมโครงการ
และแบบ สวพ.ส 008_1(2) กรณีโครงการวิจัยมีผู้ร่วมโครงการ พร้อมทั้งหนังสือมอบอำนาจ ตามแบบ สวพ.ส 009_1 โดยผู้ขอรับทุนต้องทำสัญญากับมหาวิทยาลัยภายใน 15 วันทำการ นับแต่วันที่ได้รับแจ้งการอนุมัติให้ทุนอุดหนุนการวิจัยเป็นลายลักษณ์อักษรจากหน่วยงาน มิฉะนั้นให้ถือว่าผู้ขอรับทุนประสงค์จะยกเลิกการขอรับทุนอุดหนุนการวิจัย และให้ยุติโครงการวิจัย
กรณีโครงการวิจัยที่ยื่นขอการรับรองจริยธรรมการวิจัย ให้ดำเนินการให้เสร็จสิ้นก่อนทำสัญญารับทุนอุดหนุนการวิจัยกับมหาวิทยาลัย โดยผู้ขอรับทุนต้องทำสัญญากับมหาวิทยาลัยภายใน 15 วันทำการนับแต่วันที่ได้รับแจ้งผลการรับรองจริยธรรมการวิจัยเป็นลายลักษณ์อักษร มิฉะนั้น ให้ถือว่าผู้ขอรับทุนประสงค์จะยกเลิกการขอรับทุนอุดหนุนการวิจัย และให้ยุติโครงการวิจัย ถ้าผู้ขอรับทุนไม่สามารถทำสัญญาได้ตามเวลาที่กำหนด หรือกรณีผู้ขอรับทุนประสงค์จะทำสัญญารับทุนอุดหนุนการวิจัยกับมหาวิทยาลัยก่อนดำเนินการขอรับรองจริยธรรมการวิจัย ให้ผู้ขอรับทุนเสนอคณะกรรมการกลั่นกรองงานวิจัยประจำหน่วยงานพิจารณาก่อนครบกำหนดระยะเวลาดังกล่าว
3.2.2 จัดทำประกาศรายชื่อผู้ได้รับทุนและสัญญารับทุนอุดหนุนการวิจัย เสนอให้รองอธิการบดีที่กำกับดูแลสาขาวิชา/สำนัก (สำนักเทคโนโลยีการศึกษา และสำนักทะเบียนและวัดผล) ลงนาม
3.2.3 ส่งข้อมูลให้สถาบันวิจัยและพัฒนา เพื่อรายงานให้คณะกรรมการวิจัยรับทราบ
การรายงานผลการวิจัย และการเบิกจ่ายเงินอุดหนุนการวิจัย
1. ทุนวิจัยประเภท บทความวิจัยเพื่อตีพิมพ์
1.1 ให้หัวหน้าโครงการวิจัยรายงานผลการวิจัย โดยจัดทำรายงานความก้าวหน้าโครงการวิจัย ตามแบบ สวพ.ส 005 บันทึกรายงานความก้าวหน้า/ขอขยายเวลา ตามแบบ สวพ.ส 004 และรายงานข้อมูลการวิจัย ตามแบบ สวพ.ส 011_2 พร้อมส่งบทความวิจัย และหนังสือรับรองการตีพิมพ์ต่อหน่วยงาน ตามระยะเวลาที่ระบุไว้ในสัญญารับทุนอุดหนุนการวิจัยเพื่อขอรับเงินอุดหนุนการวิจัย
1.2 ให้หน่วยงานเสนอคณะกรรมการกลั่นกรองพิจารณาการรายงานความก้าวหน้าโครงการวิจัย และอนุมัติเบิกเงินอุดหนุนการวิจัย
1.3 ให้หน่วยงานเบิกจ่ายทุนอุดหนุนการวิจัยงวดเดียว ร้อยละ 100 ตามอัตราที่กำหนดไว้ในระเบียบมหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราช ว่าด้วย ค่าใช้จ่ายในการดำเนินการวิจัยสร้างองค์ความรู้ พ.ศ. 2565
- ทุนวิจัยประเภท รายงานเพื่อขอตำแหน่งทางวิชาการ
2.1 ให้หัวหน้าโครงการวิจัยรายงานผลการวิจัย โดยจัดทำรายงานความก้าวหน้าโครงการวิจัย ตามแบบ สวพ.ส 005 บันทึกรายงานความก้าวหน้า/ขอขยายเวลา ตามแบบ สวพ.ส 004 และรายงานข้อมูลการวิจัย ตามแบบ สวพ.ส 011_2 พร้อมส่งรายงานการวิจัย (เล่มรายงาน 5 บท) บทความวิจัย และหนังสือรับรองการตีพิมพ์ต่อหน่วยงาน ตามระยะเวลาที่ระบุไว้ในสัญญารับทุนอุดหนุนการวิจัยเพื่อขอรับเงินอุดหนุนการวิจัย
2.2 ให้หน่วยงานเสนอคณะกรรมการกลั่นกรองพิจารณาการรายงานความก้าวหน้าโครงการวิจัย และอนุมัติเบิกเงินอุดหนุนการวิจัย
2.3 ให้หน่วยงานเบิกจ่ายทุนอุดหนุนการวิจัยงวดเดียว ร้อยละ 100 ตามอัตราที่กำหนดไว้ในระเบียบมหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราช ว่าด้วย ค่าใช้จ่ายในการดำเนินการวิจัยสร้างองค์ความรู้ พ.ศ. 2565
การส่งรายงานการวิจัย บทความวิจัย และเผยแพร่ผลงาน
1. ทุนวิจัยประเภท บทความวิจัยเพื่อตีพิมพ์
เมื่อหัวหน้าโครงการวิจัยส่งบทความวิจัยที่มีหนังสือรับรองการตีพิมพ์แล้ว
1.1 ให้หน่วยงานส่งหนังสือรับรองการตีพิมพ์ โดยจัดส่งบันทึกส่งข้อมูลการรับรองตีพิมพ์ ตามแบบ สวพ.ส 011
และแบบรายงานข้อมูลการวิจัยตามแบบ สวพ.ส 011_2 ที่ผู้วิจัยจัดส่งพร้อมการรายงานความก้าวหน้าโครงการวิจัย ส่งให้สถาบันวิจัยและพัฒนา
- ทุนวิจัยประเภท รายงานเพื่อขอตำแหน่งทางวิชาการ
เมื่อหัวหน้าโครงการวิจัยรายงานการวิจัย บทความวิจัย และหนังสือรับรองการตีพิมพ์แล้ว
2.1 ให้หน่วยงานประสานงานการพิจารณารายงานการวิจัย พร้อมทั้งส่งรายงานการวิจัยให้คณะกรรมการเฉพาะกิจพิจารณา
รับรองรายงานการวิจัยฉบับสมบูรณ์
2.2 หัวหน้าโครงการวิจัยส่งรายงานการวิจัยฉบับสมบูรณ์ที่ได้รับความเห็นชอบจากคณะกรรมการเฉพาะกิจต่อหน่วยงานภายใน 30 วัน
นับแต่วันที่ได้รับแจ้งอย่างเป็นทางการจากหน่วยงาน
2.3 ให้หน่วยงานรายงานให้คณะกรรมการกลั่นกรองงานวิจัยประจำหน่วยงานทราบ
2.4 ให้หน่วยงานส่งข้อมูลให้สถาบันวิจัยและพัฒนา ดังนี้
2.4.1 หนังสือรับรองการตีพิมพ์ โดยจัดส่งบันทึกส่งข้อมูลการรับรองตีพิมพ์ ตามแบบ สวพ.ส 011
และแบบรายงานข้อมูลการวิจัยตามแบบ สวพ.ส 011_2 ที่ผู้วิจัยจัดส่งพร้อมการรายงานความก้าวหน้าโครงการวิจัย
2.4.2 คำสั่งแต่งตั้งคณะกรรมการเฉพาะกิจ และหนังสือรับรองผลการพิจารณารายงานการวิจัย
เพื่อเบิกจ่ายค่าตอบแทนคณะกรรมการเฉพาะกิจพิจารณารายงานการวิจัย
การขอขยายระยะเวลาดำเนินการวิจัย
1. ให้หัวหน้าโครงการวิจัยยื่นขออนุมัติการขอขยายระยะเวลาดำเนินการวิจัย โดยยื่นเรื่องให้หน่วยงานก่อนครบกำหนดในสัญญาไม่น้อยกว่าหนึ่งเดือน
ตามแบบขอขยายระยะเวลาดำเนินการวิจัย สวพ.ส 006 พร้อมทั้งบันทึกรายงานความก้าวหน้า/ขอขยายเวลา ตามแบบ สวพ.ส 004
ทั้งนี้ สามารถขยายระยะเวลาดำเนินการวิจัยได้จำนวนหนึ่งครั้ง เป็นเวลา 3 เดือน
2. ให้หน่วยงานเสนอคณะกรรมการกลั่นกรองงานวิจัยประจำหน่วยงาน กลั่นกรองก่อนเสนอคณะกรรมการวิจัยพิจารณาอนุมัติการขอขยายระยะเวลา
3. ให้หน่วยงานแจ้งผู้วิจัยทราบภายหลังคณะกรรมการวิจัยพิจารณาอนุมัติการอนุมัติการขอขยายระยะเวลาดำเนินการวิจัยแล้ว
การแก้ไขโครงการวิจัย
1. ทุนวิจัยประเภท บทความวิจัยเพื่อตีพิมพ์
1.1 ให้ผู้ขอรับทุน/หัวหน้าโครงการวิจัย ยื่นคำขอและเอกสารที่เกี่ยวข้อง ตามแบบ สวพ.ส 010 ต่อคณะกรรมการกลั่นกรองงานวิจัยประจำหน่วยงาน ผ่านหัวหน้าหน่วยงานที่สังกัด
1.2 ให้หน่วยงานเสนอการขอแก้ไขโครงการวิจัยต่อคณะกรรมการกลั่นกรองงานวิจัยประจำหน่วยงาน พิจารณาให้ความเห็นชอบการขอแก้ไขโครงการวิจัย
1.3 ให้หน่วยงานแจ้งผลการพิจารณาให้ผู้ขอรับทุน/หัวหน้าโครงการวิจัย
- ทุนวิจัยประเภท รายงานเพื่อขอตำแหน่งทางวิชาการ
2.1 ผู้ให้ผู้ขอรับทุน/หัวหน้าโครงการวิจัย ยื่นคำขอและเอกสารที่เกี่ยวข้อง ตามแบบ สวพ.ส 010 ต่อคณะกรรมการเฉพาะกิจพิจารณาให้ความเห็นชอบการขอแก้ไขโครงการวิจัยดังกล่าว ผ่านหัวหน้าหน่วยงานที่สังกัด
2.2 ให้หน่วยงานเสนอการขอแก้ไขโครงการวิจัยต่อคณะกรรมการเฉพาะกิจพิจารณาพิจารณาให้ความเห็นชอบการขอแก้ไขโครงการวิจัย
2.3 ให้หน่วยงานแจ้งผลการพิจารณาให้ผู้ขอรับทุน/หัวหน้าโครงการวิจัย และคณะกรรมการกลั่นกรองงานวิจัยประจำหน่วยงานทราบ
การยุติโครงการวิจัย
การยุติโครงการวิจัยก่อนทำสัญญารับทุนอุดหนุนการวิจัย
- ทุนวิจัยประเภท บทความวิจัยเพื่อตีพิมพ์
1.1 ให้ผู้ขอรับทุนแจ้งยุติโครงการวิจัยเป็นลายลักษณ์อักษรต่อคณะกรรมการกลั่นกรองงานวิจัยประจำหน่วยงานโดยผ่านหัวหน้าหน่วยงานที่สังกัด
1.2 ให้หน่วยงานเสนอการยุติโครงการวิจัยต่อคณะกรรมการกลั่นกรองงานวิจัยประจำหน่วยงาน
- ทุนวิจัยประเภท รายงานเพื่อขอตำแหน่งทางวิชาการ
2.1 ผู้ขอรับทุนแจ้งยุติโครงการวิจัยเป็นลายลักษณ์อักษรต่อคณะกรรมการเฉพาะกิจผ่านหัวหน้าหน่วยงานที่สังกัด
2.2 ผู้ขอรับทุนไม่ปรับแก้ไขข้อเสนอโครงการวิจัยภายในระยะเวลา 15 วัน หลังจากได้รับแจ้งเป็นลายลักษณ์อักษรจากหน่วยงาน
2.3 ผู้ขอรับทุนไม่ดำเนินการทำสัญญารับทุนอุดหนุนการวิจัยภายในระยะเวลาที่กำหนด
2.4 ให้หน่วยงานเสนอการยุติโครงการวิจัยต่อคณะกรรมการกลั่นกรองงานวิจัยประจำหน่วยงาน และแจ้งสถาบันวิจัยและพัฒนา เพื่อเบิกเงินค่าตอบแทนคณะกรรมการเฉพาะกิจ
การยุติโครงการวิจัยหลังทำสัญญารับทุนอุดหนุนการวิจัย
- ทุนวิจัยประเภท บทความวิจัยเพื่อตีพิมพ์
หัวหน้าโครงการวิจัยมีความประสงค์จะยุติโครงการวิจัย ให้หัวหน้าโครงการวิจัยจัดทำเรื่องแจ้งการยุติโครงการวิจัยเป็นลายลักษณ์อักษรต่อต่อหน่วยงาน
- ทุนวิจัยประเภท รายงานเพื่อขอตำแหน่งทางวิชาการ
2.1 หัวหน้าโครงการวิจัยแจ้งยุติโครงการวิจัยเป็นลายลักษณ์อักษรต่อคณะกรรมการเฉพาะกิจผ่านหัวหน้าหน่วยงานที่สังกัด
2.2 ผู้ขอรับทุนไม่ปรับแก้ไขข้อเสนอโครงการวิจัยภายในระยะเวลา 15 วัน หลังจากได้รับแจ้งเป็นลายลักษณ์อักษรจากหน่วยงาน
2.3 ผู้ขอรับทุนไม่ดำเนินการทำสัญญารับทุนอุดหนุนการวิจัยภายในระยะเวลาที่กำหนด
การยุติโครงการวิจัยตาม (1) และ (2) ให้หน่วยงานเสนอคณะกรรมการกลั่นกรองงานวิจัยประจำหน่วยงานพิจารณากลั่นกรองก่อนเสนอคณะกรรมการวิจัยพิจารณาอนุมัติการยุติโครงการวิจัย แล้วแจ้งสถาบันวิจัยและพัฒนาทราบ